โรคกระเพาะมีสาเหตุมาจากอะไร

Medical

ในปัจจุบันนี้ต้องบอกเลยว่าโรคกระเพาะนั้นเป็นโรคที่หลายๆคนก็มักที่จะเป็นได้โดยที่เราก็ไม่รู้ตัวมาก่อนด้วยเพราะว่าในเรื่องของโรคกระเพาะนั้นก็เป็นเรื่องที่เราเองก็สามารถที่จะป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายได้ก็คือเราจะต้องเลือกทานอาหารที่ให้ตรงเวลาด้วยเพราะหากเรายิ่งทานอาหารได้ตรงเวลาได้มากเท่าไหร่ก็จะไม่เกิดโรคกระเพาะขึ้นมาได้  เรื่องเหล่านี้จึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ดีที่เราเองก็จะต้องใส่ใจในเรื่องของร่างกายตัวเองมากๆด้วยเพราะยิ่งเราได้ดูแลร่างกายของเราเองได้มากเท่าไหร่ก็จะช่วยทำให้เรานั้นยิ่งมีความสุขได้อย่างยิ่งด้วยและเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่เราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญและอย่าละเลยหรือมองข้ามไปเลยก็จะช่วยทำให้เราเป็นคนที่มีความสุขได้อย่ามากมายเลย เราสามารถที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโรคกระเพาะได้อย่างมากมายด้วยเพราะว่าเรื่องของโรคกระเพาะนั้นจะทำให้เราปวดท้องหนักยิ่งขึ้นได้อย่างมากมายที่สุดเลยและเราเองก็ควรที่จะต้องให้ความสำคัญมากๆเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องกังวลใจแถมยังจะช่วยทำให้เรานั้นเป็นคนที่มีความสุขกันอย่างมากด้วย คนที่เป็นโรคกระเพาะนั้นก็จะเกิดจากการทานอาหารไม่ตรงเวลาเพราะยิ่งเราทานอาหารไม่ตรงเวลาแล้วอาจจะทำให้เกิดเรื่องต่างๆที่ไม่ดีได้อีกด้วย เราจึงควรที่จะต้องดูแลตัวเองและทานอาหารให้ตรงเวลามากๆด้วยเพราะสิ่งนี้จึงจะช่วยทำให้เรานั้นเป็นคนที่เกิดความสุขได้มากขึ้นเพราะเราก็จะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงไม่เป็นโรคกระเพาะนั้นเองหากเราทานอาหารให้เป็นเวลาจะไม่ปวดท้องหรือเกิดแผลในกระเพาะอาหารด้วย เพราะทุกๆอย่างในเรื่องของโรคกระเพาะนั้นเป็นเรื่องที่เราเองก็สามารถที่จะเลือกทำไม่ให้เกิดได้เพียงแค่เรารู้จักที่จะให้ความสำคัญมากๆด้วยจึงจะดีต่อตัวเราเองอย่างยิ่งด้วย เรื่องนี้จึงควรที่จะต้องให้ความสนใจกับเราเองมากๆด้วยจึงจะดีอย่างยิ่งและที่สำคัญหากเราเป็นโรคกระเพาะก็ควรที่จะต้องหาหมอเพื่อเอายามาทานด้วยก็จะส่งผลที่ดีให้กับตัวเราเองได้อย่างมากมายเลยและเราก็จะได้หายจากการเป็นโรคกระเพาะด้วย เรื่องของโรคกระเพาะนั้นเราจึงควรที่จะต้องอย่าละเลยหรือมองข้ามไปเลยจึงจะส่งผลที่ดีกับเราเองอย่างมากมายที่สุดด้วยและเราก็จะต้องทานอาหารเช้า กลางวัน เย็นให้ตรงเวลาจะได้น้ำย่อยไม่กัดกระเพาะด้วยแล้วก้จะได้ไม่เกิดอันตรายกับโรคกระเพาะด้วยนั้นเอง

ทำความรู้จักกับ PRK

PRK

หากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มีปัญหาทางด้านสายตา คงกำลังคิดอยู่ใช่หรือไม่ว่าปัญหาสายตาสั้นนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่รบกวนทั้งกายและใจ ไหนจะไม่สะดวกตอนออกกำลังกาย ไหนจะรู้สึกว่าการใช้ชีวิตมีแต่อุปสรรค ดังนั้น ทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ จึงมักจะมีการคิดค้นเทคโนโลยีให้มากยิ่งไปกว่าเดิม โดยเน้นเพื่อความสะดวกสบายของคนไข้ ซึ่ง PRK ก็เป็นหนึ่งในวิธีนั้น ซึ่งการทำความรู้จักกับการรักษาสายตาสั้นแบบนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การรักษาวิธีนี้มีข้อดีอะไร เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง ดูแลตัวเองอย่างไร มาดูพร้อมๆ กัน  อะไรคือ PRK สำหรับการรักษาแบบนี้ เป็นการรักษาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง โดยเน้นการใช้เลเซอร์ไม่เน้นการใช้ใบมีดผ่าตัด และไม่ได้แยกชั้นกระจกตาอีกด้วย สำหรับใครที่สงสัยว่าเหมือนเลสิกหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าไม่เหมือนกันแต่อย่างใด มีการขูดผิวชั้นบนของกระจกตา แล้วจึงใช้เลเซอร์ยิงตาม   เจ็บมากหรือไม่  เมื่อได้ยินคำว่าขูดเนื้อเยื่อกระจกตา อาจจะทำให้หลายๆ คนนั้นรู้สึกว่าน่ากลัว แต่แท้ที่จริงแล้วการรักษาในรูปแบบนี้ จะเจ็บอยู่ราวๆ สามวันเพียงเท่านั้น และอาจจะใช้การฟื้นตัวกว่าแผลจะหายค่อนข้างนาน เพราะว่ามีการขูดกระจกตา แต่ก็ถือว่าได้รับความนิยมมากกว่าการทำเลสิกอยู่ดี ในบางรายที่ไม่สามารถทำเลสิกได้ หรือว่าเสี่ยงเวลาที่จะใช้เครื่องสำหรับแยกชั้นกระจกตา อาจจะต้องใช้วิธีนี้นั่นเอง แต่บางรายที่กระจกตาบางก็จำเป็นจะต้องใช้วิธีนี้ ยิ่งหากว่าใครที่สายตาสั้นมาก ก็ต้องใช้วิธีนี้เช่นกัน   ทำไมไม่ทำเลสิก  หลายคนอาจจะอ่านแล้วสงสัยว่าเมื่อเจ็บขนาดนี้ ทำไมจึงไม่ทำเลสิก ต้องตอบเลยว่าการทำเลสิคนั้นเหมาะสมกับคนที่มีกระจกตาเป็นปกติเสียมากกว่า หากว่าใครที่กระจกตามีการถลอกแบบง่ายๆ หรือว่าตาแห้งง่าย  หรือเป็นนักบิน ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะทำพีอาร์เคนั่นเอง  การดูแลหลังจากผ่าตัดไปแล้ว  สำหรับใครที่ผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว ก็จะได้ฝาสำหรับครอบดวงตา และมีรูเล็กสำหรับให้มองผ่านไปด้านนอก ห้ามแกะออก โดยข้อดีของที่ครอบตาก็คือจะทำให้ไม่มีการขยี้ตา […]

ดูแลผู้สูงอายุ อย่างไรให้คนแก่ มี “ความสุข”

ดูแลผู้สูงอายุ

สำหรับผู้ “สูงอายุ” นั้น แน่นอนว่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากมายไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ดังนั้นหากเรากำลังอยู่ในช่วงดูแลผู้สูงอายุ นั้นเราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้สูงอายุนั้นมีอารมณ์แปรปวนและมีอารมณ์หลากหลายวันนี้เราลองมาดูกันดีกว่าถ้าเราจะดูแลผู้สูงอายุ เราจะทำอย่างไร ให้ผู้สูงอายุของเรา “มีความสุข” ผู้สูงอายุนั้นจะมีอารมณ์หว้าเหว่มากกว่าปกติ             ลองคิดดูนะครับจากปกติที่เรามีอะไรทำอยู่แล้ว แต่วันหนึ่งเรากลับไม่มีอะไรทำนอนอยู่บ้านเฉย ๆ เราจะเหงาขนาดไหน แน่นอนว่าผู้สูงอายุด้วยก็เช่นกันดังนั้นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้สูงอายุนั้นจะมีอารมณ์เหงาและหว้าเหว่มากดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดนั้นคือเราจะต้องพยายามกลับไปบ่อย ๆ ไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกเหงา จากการพลัดพราก กลัวถูกทอดทิ้ง             แน่นอนว่าสำหรับคนแก่นั้นการ “กลัวถูกทอดทิ้ง” นั้นเป็นเรื่องปกติมากด้วยความที่ยิ่งอายุมากขึ้น ความวิตกกังวลนั้นมากขึ้น  และสำหรับผู้สูงอายุบางคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้นั้นจะยิ่งกลัวเป็นพิเศษ เพราะยิ่งช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็จะยิ่งกลัวเป็นพิเศษจากการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ยิ่งกลัวลูกหลานจะทิ้งดังนั้นเราจะต้องให้ความมั่นใจสำหรับผู้สูงอายุไม่ว่าตัวผู้สูงอายุจะเป็นอย่างไรก็จะไม่ทอดทิ้ง ขี้น้อยใจ             ผู้สูงอายุส่วนมากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์นั้นจะเหมือนกับการกลับเป็นเด็กอีกครั้ง ดังนั้นในเรื่องของความน้อยใจและความเอาแต่ใจจะยิ่งมากขึ้นเป็นพิเศษเพราะต้องการการยอมรับจากลูกหลานมากขึ้นและในเรื่องของการออกความคิดเห็นเองก็เป้นอีกเรื่องที่สำคัญอีกเช่นกันสำหรับผู้สูงอายุนั้นต้องการให้ลูกหลานยอมรับในความคิดเห็นของตัวเองซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นเหมือนกับการ “เอาแต่ใจ” ไปเลยก็มีนะครับ ยังไงอะไรที่มองผ่านได้ ก็แนะนำให้มองผ่านนะครับ ความคิดถึง “ความหลัง”             ในเรื่องของความหลังนั้นสำหรับผู้สูงอายุ นั้นเป็นเรื่องที่พึ่งผ่านมาไม่นานสำหรับเขา ถึงแม้ความจริงมันจะผ่านมาเป็น 10 ปี แล้วก็ตาม สิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการนั้นคือ หนึ่งคนที่นั่งฟังและฟังเขาลำลึกความหลัง ถึงแม้ความหลังมันอาจจะไม่สวยงาม แต่สสำหรับผู้สูงอายุแล้วมันยังเป็นเรื่องที่ผ่านมาไม่นานนี้เองครับ หงุดหงิดง่าย             เนื่องด้วยร่างกายที่แก่และทรุดโทรมลงตามอายุ […]

ทำความรู้จักกับการเอกซเรย์

รถเอกซเรย์เคลื่อนที่

ทุกคนคงรู้จักการเอกซเรย์ หรือไม่ก็อาจจะเคยใช้เคยตรวจมาด้วยตัวเองบ้างแล้ว เพราะในยุคนี้วิทยาการความก้าวหน้าทางด้านการแพทย์มีสูงมาก การรักษาโรคต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าแต่ก่อน แม้จะอยู่บ้านนอกหรือที่ชุมชน ที่ห่างงไกลจากความเจริญ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับโอกาสในการรักษาพยาบาลที่ดีเหมือนกับคนที่อยู่ในตัว เพราะทุกวันนี้เขามีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ที่มีทั้งการรักษาโรคทั่วไป การตรวจโรค หรือแม้แต่รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ก็มีให้บริการเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ไม่รู้ว่าเอกซเรย์นั้นคืออะไร เราจะมาทำความเข้าใจกันก่อน เพื่อที่จะได้รู้จักการเอกซเรย์มากขึ้น สำหรับการเอกซเรย์จะเป็นการตรวจสิ่งผิดปรกติที่อยู่ในร่างกายของเรา และอวัยวะภายในของเรา เพราะส่วนอวัยวะที่อยู่ข้างใน ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า จะต้องมีการเอาเคร่องเอกซเรย์เข้ามาช่วย เพื่อให้มองเห็นความผิดปรกติดในร่างกาย เช่นการตรวจเนื้องอก ตรวจหาของแปลกปลอม หรือแม้แต่การตรวจเพื่อผ่าตัดเอาประสุดออก แพทย์ก็ต้องทำการเอกซเรย์ดูความผิดปรกติข้างในก่อน เพื่อที่จะได้ผ่าตัดอย่างถูกต้อง จะว่าไปรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ก็มีประโยชน์หลายอย่างจนแทบจะนับไม่ถ้วน นอกจากจะตรวจโรคที่เราสงสัยว่าจะเป็นแล้ว ยังเป็นการตรวจเพื่อหาความเสี่ยงอีกด้วย เช่นการตรวจโรคจากการทำงาน ก็สามารถตรวจเช็คด้วยการเอกซเรย์ หากเราเป็นคนที่ทำงานอยู่กับความเสี่ยงอย่างฝุ่นละออง ควันพิษต่างๆ การเอกซเรย์จะช่วยให้เรารู้เกี่ยวกับร่างกายได้ชัดเจนขึ้น แต่การเอกซเรย์ก็อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกันสำหรับคนบางคน เช่นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หากท้องของคุณแม่ได้รับรังสีจากการเอกซเรย์ รังสีนี้ก็อาจจะทำให้เกิดความผิดปรกติกับทารกในครรภ์ได้ แต่ก็ไม่เสี่ยงเกินไป หากไม่ได้รับรังสีที่บ่อยเป็นประจำ ถึงอย่างไรก็พยายามเลี่ยงจดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นการตรวจในโรงพยาบาลหรือว่า รถเอกซเรย์เคลื่อนที่ ก็ตาม คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรใช้บริการเอกซเรย์จะดีที่สุด แต่ถึงอย่างไรการเอกซเรย์ก็นับว่ามีประโยชน์มากกว่าโทษอยู่ดี หากรู้ว่าต้องป้องกันอย่างไรก่อน ก็แทบจะไม่มีความเสี่ยงเลยก็ว่าได้ ดังนั้นหากใครที่ต้องการอยากจะทราบเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง หรือรู้สึกว่าร่างกายของเราไม่ปรกติ อยากจะดูว่าอวัยวะข้างในมีปัญหาหรือไม่ ก็มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะบอกได้ นั่นก็คือการเอกซเรย์ […]

วิธีป้องกัน โรคสมองเสื่อม

โรคสมองเสื่อม

อวัยวะในร่างกายของเราทุกคน เมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ ปี ก็ต้องมีการเสื่อมสภาพ ไปตามเวลาในอายุของมันทั้งนั้น  แต่ก็คงไม่มีใครจะปฏิเสธได้หรอกว่า ในบรรดาอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของเรานั้นสมองก็ถือว่าเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดอีกเช่นกัน เพราะเพราะระบบในร่างกายของมนุษย์เรา ต้องใช้ประสาทสัมผัสที่ผ่านสมองกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น การได้ยินเสียง การได้กลิ่น หรือการได้รสกระทบสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ต่อเนื่องด้วยการจดจำ การนึกคิดหรือมีความรู้สึกต่างๆ สิ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการทำงานของสมองทั้งนั้น เพราะถ้าเราไม่มีสมอง กระบวนการทำงานทั้งหลายเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ถ้าหากสมองของเราเสียหายไปแค่10% นั่น ก็อาจทำให้เราไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย เพราะว่าสมองนั้นเป็นอวัยวะที่สัมพันธ์กับจิตใจ และร่างกายของเรามากที่สุดเลยทีเดียว และในสมองของเรา ก็จะประกอบด้วยเซลล์สมองราวๆ ประมาณหนึ่งล้านล้านเซลล์เลยทีเดียว คือเรียกได้ว่าเยอะมากจนไม่สามารถทำการนับได้ ซึ่งก็เกิดเป็นโครงข่ายการสื่อสาร ที่สลับซับซ้อนมากที่สุด และสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง คนที่สูบบุหรี่จัด และมักจะมีความเครียดบ่อยๆ ชอบนอนน้อย หรืออดนอนประจำนั้น ซึ่งในพฤติกรรมเหล่านี้ก็จะส่งผล ทำให้สูญเสียเซลล์สมอง เป็นอย่างมากที่สุด ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ ในการรู้จักดูแลสมองของตนเอง อย่างถูกวิธีซึ่งประกอบอยู่ 3 หลักได้แก่ 1.การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพราะการที่คนเราได้ทำการนอนหลับ ให้ได้วันละ 7 ชั่วโมง สมองก็จะมีเวลา ในการซ่อมแซมตัวเอง และการจัดระเบียบข้อมูลต่างๆ […]